Category Archives: News & Events

ถอดรหัส HX ONE ใหม่ล่าสุดจาก Line6 สำหรับคนรัก Effect ก้อน 250+ เสียงในตัวเดียว

🎸 เปิดตัวกันไปไม่กี่ชั่วโมงนี้เรียบร้อยแล้วกับ Line6 รุ่น HX ONE ใหม่ล่าสุด ที่แอดเพิ่งได้รับอีเมล์จาก Line6 และได้เห็นข่าวจากหลายๆร้านกีตาร์ทั่งโลกอย่าง Sweetwater หรือ Peach Guitar ได้ลงบทความกันแล้ว ทุกอย่างดูดีมาก วันนี้เราจะมาถอดรหัสกับว่าเจ้าตัวนี้ทำอะไรได้บ้างและน่าสนใจแค่ไหน!

▷ Line6 บอกเราว่าเจ้านี่มันคือ Stereo effect pedal ที่ทรงพลังและมีขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษ แน่นอนเราจะได้ก้อน Stomp ที่มีเสียงเยอะมากเหมือนแจกฟรี

มี In/Out แบบ Stereo แต่มีขนาดเล็กเท่ากับ Effect ก้อนทั่วไป แถมยังการันตีว่าใช้งาน “ง่าย” แอดเดาว่าการใช้งานจะยืดหยุ่นมากๆ ตามสไตล์การออกแบบของ Line6 ทีมีชื่อเสียงอย่างยาวนาน

▷ ใช้ชิปคุณภาพเดียวกันกับตระกูล HX ให้เสียงมามากถึง 250+ เสียงแต่มาในไซส์คอมแพคสุดๆ ยกกันมาครบทั้งแสียงแตก Delay Reverb Modulation Wah Pitch และอีกมากมาย

▷ Flux Controller กับฟังก์ชั่นที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงค่าพารามิเตอร์ต่างๆโดยการกดในครั้งเดียว ทำให้เราปรับเสียงได้หลากหลายขึ้น ยกตัวอย่างเช่นปรับค่าของ Rate , Delay Mix หรือ Gain , EQ และอีกมากมาย ปรับได้ทุกอย่างตามที่เราต้องการ และปุ่มนี้สามารถใช้เป็น Tap Tempo ได้อีกด้วย

▷ In/Out จะเป็นแบบ Stereo เลือก Impedance ได้และสามารถ Send/Return ผ่านช่อง I/O นี้ไปยังแอมป์ได้ รองรับการต่อแบบ 4 Cables

▷ ที่ขาดไม่ได้ มาพร้อมกับ Midi I/O ให้เราสามารถใช้อุปกรณ์ตัวอื่นคอนโทรลเจ้าตัวนี้ได้ หรือจะส่งไปคอนโทรลก้อนอื่นๆที่มี Midi ได้ ทำให้การออกแบบบอร์ดของคุณสะดวกมากขึ้น

▷ สามารถต่อ Expression ได้ 1 ตัวหรือคุณจะต่อ Foot Switch 2 ตัวก็ทำได้ หรือคุณจะต่อ Exp 1 กับ FS เพียง 1 ตัวก็ได้เช่นกัน

▷ จอเป็น OLED แสดงค่าพารามิเตอร์ 3 แบบพร้อม 3 Knob Control ต่อกับ PC โหลด HX ONE Libralian เพื่อการปรับที่สะดวกมากขึ้น รองรับทั้ง OSX และ Window

▷ สามารถเลือกให้เป็น True Bypass หรือ DSP Bypass ได้ , มี Tuner ให้มาในตัว และมี Looper ให้ไว้ใช้ซ้อมกันอีกด้วย

🎸 ถ้าคุณเป็นแฟนของ Hx Family ถ้าชื่นชอบเสียงค่ายนี้อยู่แล้วไม่ควรจะพลาดจริงๆ ถามแอดว่าแอดจะซื้อไหม แอดซื้อแน่นอน!ไม่ยอมพลาดเช่นกัน เพราะ Stomp ที่เสียงเยอะขนาดนี้และขนาดเล็กแบบนี้ ปรับได้เยอะขนาดนี้ คอนโทรลได้ง่ายสะดวกสบาย ใครมันจะอดใจไหว! (เขียนบทความนี้ในระหว่างที่แอดกำลังต่อบอร์ด Hx Stomp เล่นอยู่พอดี :))

ราคาที่ Sweetwater $299.99 หรือประมาณหมื่นนิดๆ เปิดตัวในไทยเมื่อไหร่แอดจะรีบรายงานให้ทราบเลยครับ

🎸 แอดมินรายงาน

***สนใจกดติดตามเพจไอกีตาร์เพื่อจะไม่พลาดข่าวสารอัพเดท เราเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Yamaha Thailand (ซึ่ง Line6 อยู่ในเครือ) และมีหน้าร้าน Yamaha Store by iGuitar ที่ชั้น 3 ฟอร์จูน แวะมากันได้เล้ย

เดือดมาก!! Fender Tone Master Pro !!

เดือดมาก!! Fender Tone Master Pro !! สุดเซอร์ไพรส์ เมื่อค่ายพี่บิ๊กของเราอย่าง Fender ลงมาถล่มตลาดมัลติด้วยมัลติรุ่นสุดอลังการใหม่ล่าสุด พี่เค้ารวบรวมแอมป์พีคๆจากทาง Fender เองและค่ายในเครืออย่าง EVH มาให้ใช้กันอย่างจุใจ ได้ใช้ชื่อแอมป์ตรงๆไม่ต้องอ้อมค้อมกันแล้ว เช่น Fender ’65 Deluxe Reverb® , EVH 5150III นอกจากนี้ยังมีก้อนๆและแอมป์จากค่ายอื่นๆเช่น Marshall , Mesa , Vox , Friedman ให้มาอย่างครบถ้วนอีกด้วย และสามารถ Loop ก้อนได้อีกถึง 4 ก้อนเลยทีเดียว! นอกจากจอทัชสกรีนตามมาตรฐานสุดยอดมัลติสมัยใหม่แล้ว ยังสามารถโชว์รูปแอมป์และก้อนสวยๆให้มองเพลินๆได้ด้วย ที่พีคกว่านั้นคือปุ่มเหยียบสามารถหมุนเพื่อปรับค่าพารามิเตอร์ต่างๆของ Amp Knob และ Pedal Knob ได้อีก! โคตรได้ฟิล และปุ่มเหยีบบก็มีสีสันสวยงามน่าใช้สุดๆ อัพเดทราคาล่าสุดจากเว็บ Fender เหลือ $1,699 แล้ววว ส่วนจะทำได้ดีขนาดไหน เสียงจะเป็นยังไง การจำลองแอมป์จากค่าย Fender และ EVH จะทำได้ดีขนาดไหน โปรดติดตามตอนต่อไป
แอดมินรายงาน

Fender Tone Master Pro
Effects:

Gain:

Clean Boost
Dallas Rangemaster Treble Booster
Marshall Bluesbreaker
Analogman Prince of Tone
Paul Cochran Timmy
Ibanez TS808 Tube Screamer
Klon Centaur
Nobels ODR-1BC
B.K. Butler Tube Driver
Boss DS-1
MXR Distortion Plus
Seymour Duncan Palladium Gain Stage
Pugilist Distortion
Pro Co RAT
Electro-Harmonix Green Russian Big Muff Pi
Electro-Harmonix Big Muff Pi Ram’s Head
Fuzz Face (Germanium)
Fuzz Face (Silicon)
Seymour Duncan Tweak Fuzz
Tycobrahe Octavia
Octobot

Modulation:

Tube Bias Tremolo (Fender Princeton® Reverb)
Harmonic Tremolo (Fender Harmonic Vibrato)
Optical Tremolo (Fender Twin Reverb)
Boss TR-2 Tremolo
Roland JC-120 JC Chorus
Roland JC-120 JC Vibrato
Fender Vibratone
Uni-Vibe
Leslie 147 Rotary Speaker
Leslie 122 Rotary Speaker
Boss BF-3 Flanger (Mono, Stereo)
MXR Flanger
Electro-Harmonix Electric Mistress
MXR Phase 90
Boss PH-3 Phaser
Boss CE-5 Chorus (Mono, Stereo)
Boss DC-2 Dimension C
Dyno My Piano Tri-Stereo Chorus
Orbit Stereo Panner
Delay:
Auto-Swell Delay
Digital Delay Mono
TC Electronic 2290 Delay – Dynamic
TC Electronic 2290 Delay – Studio
Echo Filter (Mono, Stereo)
Electro-Harmonix Deluxe Memory Man (Mono, Stereo)
Ping Pong Delay
Roland RE-201 Space Echo (Mono, Stereo)
Reverse Delay
Maestro Echoplex EP-3

Reverb:

’63 Spring Reverb
’65 Spring Reverb
Large Hall Reverb
Small Hall Reverb
Large Plate Reverb (EMT 140)
Large Room Reverb
Modulated Large Hall Reverb
Modulated Small Hall Reverb
Cloud Reverb
Celestial Reverb
Nebula Reverb
Shimmer Reverb

Dynamics + EQ:

MXR Dynacomp (Dynamic, Simple)
Boss CS-3 Compression Sustainer
Studio Compressor
MXR M-163 Sustain
EQ3 Parametric
Mesa Boogie Mark IIC+ graphic equalizer
Boss GE-7 graphic equalizer)
Noise Gate
ISP Technologies Decimator II G String
Simple Noise Gate
Volume Pedal
Auto Swell
Filters + Pitch:
Dunlop Crybaby 535Q Wah
Dunlop Crybaby GCB-95 Wah
Vox V847 Wah
Pitch Shifter
Harmonizer
Feedback Generator
DigiTech Whammy
DigiTech Whammy Detune

Amps:

Fender ’59 Bassman® (Combo, Head)
Fender ’65 Princeton® Reverb (Combo, Head)
Fender ’65 Deluxe Reverb® (Combo, Head)
Fender ’65 Twin Reverb® (Combo, Head)
Fender ’65 Super Reverb® (Combo, Head)
Fender Vibro-King® (Combo, Head)
Fender Blues Junior™ (Combo, Head)
Fender Bassbreaker™ (Combo, Head)
Vox AC30 Normal Channel (Combo, Head)
Vox AC30 Brilliant Channel (Combo, Head)
Mesa/Boogie Mark I (Combo, Head)
Mesa/Boogie Mark IIC+ (Stack, Head)
Mesa/Boogie Dual Rectifier (Stack, Head)
Roland JC-120 Jazz Chorus (Combo, Head)
Marshall 1959 Super Lead Plexi (Stack, Head)
Marshall JCM800 2204 (Stack, Head)
Marshall Silver Jubilee 2553 – Clean (Stack, Head)
Marshall Silver Jubilee 2553 – Rhythm (Stack, Head)
Marshall Silver Jubilee 2553 – Lead (Stack, Head)
Friedman BE-100 (Stack, Head)
EVH 5150III 6L6 – Green Channel (Stack, Head)
EVH 5150III 6L6 – Blue Channel (Stack, Head)
EVH 5150III 6L6 – Red Channel (Stack, Head)
Bogner Uberschall (Stack, Head)
Custom Studio Preamp (Head Only)
Custom Tube Preamp (Head Only)
Fender Acoustasonic™ Preamp (Head Only)

Cabs:

1×10 Fender ’65 Princeton with Jensen® C10R
1×12 Fender ’65 Deluxe Reverb® with Jensen® C12K
1×12 Fender ’65 Deluxe Reverb with Celestion® Creamback
1×12 Fender Bassbreaker with Celestion® V-Type
1×12 Fender Blues Junior with Celestion® A-Type
1×12 Fender Blues Junior LTD with Jensen® C12N
2×12 Fender ’65 Twin Reverb with Jensen® C12K
2×12 Fender ’65 Twin Reverb with Celestion® Creamback
2×12 Fender Vibro-King with Celestion® Vintage 30
3×10 Fender Vibro-King with Jensen P10R
4×10 Fender ’59 Bassman with Jensen® P10R
4×10 Fender ’65 Super Reverb with Jensen® P10R
1×12 Mesa/Boogie Mark IIC+ with EVM12L
2×12 Vox AC30 with Celestion® Alnico Blue
2×12 Vox AC30 with Celestion® Greenback
2×12 Roland JC-120 Jazz Chorus
2×12 Marshall Jubilee with Celestion® G12-75
4×12 Marshall 1960TV with Celestion® Greenback
4×12 Marshall 1960A (late-’80s) with Celestion® G12T75
4×12 Marshall 1960A (late ’80s) with Celestion® Vintage 30
4×12 Friedman with Celestion® Vintage 30
4×12 EVH 5150 IIIS with Celestion® G12 EVH 20W
4×12 Mesa Boogie Rectifier (Standard) with Celestion® Vintage 30
4×12 Mesa Boogie (1985 Half-Back) with Vintage Black Shadow
4×12 Bogner Uberkab with Celestion® G12T75
4×12 Bogner Uberkab with Celestion® Vintage 30

Microphones:

Sennheiser MD 421 dynamic
Royer Labs R-121 ribbon
Electro-Voice RE20 cardioid dynamic
AKG C414 condenser
Earthworks Audio M23 condenser
Shure SM7B dynamic
Shure SM57 dynamic

จะสั่ง Custom Saito Guitars เลือกสีอะไรได้บ้าง

จะสั่ง Custom Saito Guitars เลือกสีอะไรได้บ้าง ? วันนี้เราจะมาพูดถึงสีในไลน์การผลิตของ Saito Guitars เพื่อช่วยให้พีๆ เพื่อนๆ ที่คิดจะ Custom Saito Guitars แล้วยังลังเลว่าจะเอาสีอะไรดี บทความนี้อาจะช่วยให้ Custom ได้ง่ายขึ้น และได้รู้ว่ามีสีอะไรบ้าง สีไหนทำในรุ่นไหนบ้าง ไม่ทำในรุ่นไหนบ้าง ไปดูสีของ Saito Guitar กันเลย หวังว่า บทความนี้ที่เราเตรียมมาจะช่วยประกอบการตัดสินใจของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่กำลังตัดสินใจจะ Custom กีต้าร์กับทาง Saito Guitars ไม่มากก็น้อย ถ้าสงสัยอะไรตรงไหน หรืออยากสั่ง Custom ก็สามารถแอดไลน์ @iGuitar ทักมาคุยกับเราได้เลย มีน้องๆดูแลแนะนำ ทุกขั้นตอนไนการ Custom ครับ

Strymon เปิดตัว Reverb รุ่นใหม่ในราคา ไม่ถึงหมื่น!!!

Strymon เปิดตัว Reverb รุ่นใหม่ในราคา ไม่ถึงหมื่น!!!

Strymon เปิดตัว Cloudburst Ambient Reverb ซึ่งเป็นเอฟเฟคก้อนที่มีราคาไม่แพงและยังมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด
Cloudburst Ambient Reverb  เอฟเฟคก้อนที่เป็นมิตรกับมือกีตาร์ ช่วยยกระดับเสียงสะท้อนของ Reverb ให้แวววาวมีมิติขึ้นอีกระดับ ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับฟอร์มแฟคเตอร์ที่สดใหม่และราคาที่เป็นมิตรต่อเงินกระเป๋าของคุณ

อย่างที่กล่าวมาข้างต้น Strymon ได้ใช้ชื่อเจ้าตัว Reverb ตัวใหม่นี้ว่า “Cloudburst Ambient Reverb” ซึ่งเปิดตัวฟอร์มแฟคเตอร์ใหม่สำหรับบริษัทพร้อมกับทำราคาใหม่ให้จับต้องได้ง่ายมากขึ้น ตามที่แนะนำ เอฟเฟคก้อนนี้สร้างขึ้นบนอัลกอริทึมของคลาวด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ BigSky รุ่นเรือธงของทาง Strymon แต่ปรับให้ครอบคลุมเสียงที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียง room และ Hall ไปจนถึง ambient pads ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของทาง Strymon  เอง แม้จะลดขนาดตัวเอฟเฟคลง แต่ Cloudburst ยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่ทำให้แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ นั่นคือ การประมวลผลแบบ Ensemble ที่พัฒนาขึ้นใหม่นั้นนำ shimmer reverb ที่มีมาอย่างยาวนาน ให้ขึ้นไปสู่อีกระดับ เพิ่มเสียงประสานใหม่มากมายสำหรับเอฟเฟ็กต์แบบออเคสตร้าเกือบทั้งหมด

การควบคุมประกอบด้วยสวิตช์สามทางสำหรับปริมาณเอฟเฟกต์ Ensemble เช่นเดียวกับปุ่ม Decay, Mix, Pre-Delay, Tone และ Mod รูแจ็คที่ติดตั้งด้านบนของ Cloudburst มีอินพุตและเอาต์พุต TRS สำหรับการใช้งานระบบสเตอริโอ เช่นเดียวกับแจ็ค EXP/MIDI ซึ่งสามารถตั้งค่าสำหรับ Expression Pedal, Favorite, Freeze, Infinite หรือ MIDI control นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อ USB สวิตช์โมโน/สเตอริโอ และแหล่งจ่ายไฟ 9V มาตรฐานอุตสาหกรรม

และแน่นอนว่ามีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 9,900 บาท ซึ่งทำให้ Cloudburst Ambient Reverb มีราคาย่อมเยาที่สุดในบรรดาเอฟเฟคก้อนของทาง Strymon สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของหรือลอง สามารถมาลองได้ที่ iGuitar Music หรือจะสั่งเข้ามาทางออนไลน์ก็ได้เช่นกัน ขอบคุณที่อ่านกันจนจบ… ขอบคุณครับ

Strymon Cloudburst | Ambient Reverb | Reverb Pedal

SAITO GUITARS กีตาร์ไฟฟ้าที่เรียบง่ายและสวยงาม

SAITO GUITARS กีตาร์ไฟฟ้าที่เรียบง่ายและสวยงาม SAITO GUITARS เป็นกีตาร์ไฟฟ้า ที่ผลิตที่ประเทศ ญี่ปุ่น ทั้งตัว ซึ่งทาง SAITO GUITARS ได้สร้างกีตาร์ขึ้นมาโดยใช้หลักที่ว่า “เรียบง่ายและสวยงาม”  และทาง SAITO GUITARS ก็หวังว่า มันจะกลายเป็น “เครื่องมือ” ที่ดึงเอาศักยภาพของนักดนตรีออกมาอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะอยู่ในดนตรีประเภทใดก็ตาม เรามาฟังประวัติของ SAITO GUITARS กันคราวๆดีกว่าครับ เริ่มเลยแล้วกัน SAITO GUITARS นั้น ได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 1991 โดยนาย Masaaki Saito ช่างซ่อมกีตาร์ไฟฟ้า ได้ก่อตั้งร้านซ่อมกีตาร์ขึ้นใน adachi-ku Tokyo แล้วต่อมาอีก 13 ปี ในช่วงปี 2004 เขา Masaaki Saito และพนักงานในร้านอีก 3 คน ได้เปิดร้านซ่อมกีตาร์อีกแห่งใน Kamiuma Setagaya-ku จนกระทั่งในปี 2008 ทาง Masaaki Saito ได้ย้ายร้านอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาได้ย้ายไปที่ Shimotakaido ใน Suginami-ku ผ่านไป 3 ปีทาง Masaaki Saito ได้รวบรวมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จึงได้เริ่มทำการผลิตปิ๊กอัพขายเป็นของตัวเอง โดยใช้ชื่อ “SAYTONE Handwiring Pickups”ได้เริ่มทำในปี 2011 และยังคงใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน และในปี 2012 เขาได้เปลี่ยนร้านซ่อมกีตาร์ ให้กลายเป็นบริษัท โดยใช้ชื่อว่า Saito Gakkikoubou Inc. แล้วได้ย้ายร้านอีกครั้งไปที่ Kawaguchi city ใน Saitama แล้วในปี 2014 ทาง Masaaki Saito ได้เปลี่ยนกิจการจากการรับซ่อมกีตาร์ มาเป็นอุตสาหกรรมการผลิตอย่างเต็มตัว โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า “SAITO GUITARS” และได้เปิดตัวกีตาร์รุ่นแรกทีชื่อรุ่นว่า M-Series ซึ่งเป็นกีตาร์โปร่ง ไม่ใช้กีตาร์ไฟฟ้าที่เหมือนในปัจจุบัน

กีตาร์โปร่ง Saito M-Series

จนในปี 2015 ทาง SAITO GUITARS ได้เปิดตัวกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกชื่อรุ่นว่า S-Series โดยกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ เริ่มการผลิตโดยใช้เครื่อง CAD และ NC โดยใช้โปรแกรม machining และเปิดตัวกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ มากขึ้นรวมถึง S-622 และเริ่มรับ Select Order เป็นช่วงแรกๆอีกด้วย ทาง SAITO GUITARS ได้เริ่มจำหน่ายกีตาร์หัวตัดรุ่นแรก ในปี 2017 ในรุ่น S-Series “S-HL7” พร้อมยูนิต Headless ดั้งเดิมที่ทาง Saito ออกแบบเอง โดยให้ทาง Gotoh ผลิตให้ ในปี 2018 ทาง Saito ได้มียอดจัดส่งสะสมสำหรับ S-Series เกิน 1,000 คัน และในปี 2019 SAITO GUITARS ได้เริ่มผลิตเบสขึ้นโดยใช้ชื่อรุ่น S-420b และ S-521b เป็นรุ่นพื้นฐานรุ่นแรก เริ่มจำหน่าย Portrait Line เปิดตัวเครื่อง CNC รุ่นล่าสุด SHODA NCN 8200 เปิดตัว S-420b และ S-521b เป็นเบสรุ่นแรกและ Portrait Line โรงงานของเราได้รับการติดตั้ง SHODA CNC machine tool และล่าสุดในปี 2022 นี้เอง SAITO GUITARS ได้ผลิตกีตาร์ไฟฟ้าในราคาย่อมเยาว์ โดยใช้ชื่อว่า SR-Series โดยทำการผลิตปิ๊กอัพ รุ่น “SAYTONE ROBO Winding” ผลิตโดยการใช้เครื่องจักรในการผลิต ทำให้มีราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ง่ายขึ้น และทั้งหมดนี้ก็ประวัติของทาง SAITO GUITARS ที่ทาง iGuitar ได้รวบรวมที่ไปที่มา มาให้เพื่อนๆ ทราบ ว่าการทำกีตาร์ไฟฟ้าของเขาหรือคอนเซปในการผลิตต่างๆ นั้นมีเรื่องราวเป็นยังไง
SAITO S-622 SSH Matching Head [Dot Inlay] – Atlantis
SAITO S-521b – Ash Naked
SAITO S-622CS STANDARD SSH [ EXTRAORDINARY WENGE NECK ] – Mustard
SAITO SR-22 SSH – Greige

「𝐘 𝐒𝐢𝐠. 𝐑𝐨𝐜𝐤&𝐏𝐥𝐚𝐲 𝐒𝐞𝐫𝐢𝐞𝐬」

วางจำหน่ายแล้ววันนี้! 🔥

#YSIG#NewSeries#RockandPlaySeries

.

「𝐘 𝐒𝐢𝐠. 𝐑𝐨𝐜𝐤&𝐏𝐥𝐚𝐲 𝐒𝐞𝐫𝐢𝐞𝐬」

สาวกห้ามพลาดกับกีตาร์ Superstrat ซีรี่ย์ใหม่จาก Y Sig. ที่ถูกออกแบบโดยพี่ยอด Bodyslam มือกีตาร์ขวัญใจวัยรุ่นหลายๆคน มาในราคาพิเศษ 25,900 บาท เหลือไม่เยอะแล้วครับ!!

.

【𝐘 𝐒𝐢𝐠. 𝐑𝐨𝐜𝐤&𝐏𝐥𝐚𝐲 𝐒𝐞𝐫𝐢𝐞𝐬 25,900 บาท】

↓รายละเอียดสินค้าบนเว็บไซต์ คลิก!!↓

https://bit.ly/3LJOuHl

▼ ติดต่อร้านไอกีตาร์ ▼

◆ Website /www.iguitarmusic.co.th

◆ Messenger /https://m.me/iguitarthailand

◆ Tel/090-646-5551 (เปิดทุกวัน: 10:00~20:00)

◆ Tel/02-641-1882

★ Line ID/@iGuitar

◆ Store/Fortune Town พระรามเก้า ชั้น 3

◆ Video/https://youtube.com/c/iGuitarMusic

.

#YSIG#NewSeries#RockandPlaySeries#iGuitar#iGuitarMusic

10 เหตุผล ที่มือกีตาร์หลายๆคนชอบ SAITO

1. สำหรับนักเล่นตัวจริงจะรู้ว่า Radius คอแบบ 10”-12” Compound Radius ในกีตาร์ราคา 6-7 หมื่นบาท หาไม่ง่าย บางทีเราอาจจะเจอคอโค้งไปหรือแบนไปแบบ 9.5”-14” หรือ 12”-16” และบางทีงานเหล่านี้ก็ยังไม่ใช่งานฝีมือเกรด Custom หรือถ้าจะเอาเกรดนี้บางแบรนด์ก็ทะลุเกือบแสนเลยทีเดียว SAITO จึงเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับกีตาร์เกรด Custom ราคาไม่เกิน 7 หมื่น 2. คอไม่อ้วนไปและไม่บางไป จับสนุกกำลังพอดี นักเล่นที่ซีเรียสเรื่องการคอนโทรลวิธีเล่น องศาการจับ และความสบายในการยืนและนั่งเล่นทุกท่าทางจะเข้าใจดีว่า คอแบบนี้ “เล่นง่าย” “คุมง่าย” ไม่ว่าจะเล่นเฟรตแรกหรือจะดันสายหนักๆเฟรตลึกๆ ก็ตอบสนองต่อทักษะการเล่นได้ดังใจ ยอดเยี่ยมมากๆ 3. เฟรตคุณภาพของ SAITO เป็น Jescar FW-51100 Nickel Silver บวกกับความใส่ใจในการทำ ไม่ว่าจะเป็นการเลเวลและงานเก็บขอบเฟรต ทำออกมาพิถีพิถันมากแบบงานญี่ปุ่นแท้ๆ 4. งานตกแต่งของ Headstock สวยงาม เรียบง่ายแต่หรูหรา ส่วนเว้าส่วนโค้งถูกออกแบบมาอย่างดี ไม่เหมือนใคร และให้ความสำคัญกับความสวยงามเป็นอย่างมาก รวมไปถึงงานออกแบบ Neckplate ที่เรียบไปกับตัวบอดี้ ซึ่งเป็นการออกแบบที่ใส่ใจผู้เล่นเป็นอย่างยิ่ง 5. สายเพี้ยนยากสุดๆ SAITO มีเคล็ดลับการออกแบบที่ละเอียดมาก การวางองศาของสายทั้ง 6 เส้น รวมไปถึงลูกบิด Locking ทำให้กีตาร์ SAITO เพี้ยนยาก นักเล่นที่เล่นหนักและเจออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยจะทราบดีว่า การตั้งสายบ่อยๆส่งผลกระทบต่องานและการเล่นมากเพียงใด 6. Pickup ของ SAITO เป็นแบบ “พันด้วยมือ” ทำให้เสียงมีคุณภาพสูง อุ่น หนา ชัดทุกเม็ด ให้รายละเอียดที่ดี ถูกใจมือกีตาร์สาย Modern อย่างมาก 7. ตัวบอดี้กีตาร์ SAITO ใช้ไม้เกรดคุณภาพเพียง 2 ชิ้นเท่านั้น รุ่น Alder น้ำหนักเพียงแค่ 3.2-3.3kg ในแต่ละตัวและทำได้เท่ากันหมดทุกตัว พวกเขาใส่ใจมากในการควบคุมน้ำหนักให้เบา (สั่งมา 10 ตัวก็น้ำหนักเท่ากัน) รุ่น Light Weight Ash จะเบายิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเบสนั้นมีน้ำหนักที่เบาสุดๆ เหมาะสำหรับมือเบสที่เน้นต้องสะพายเล่นเป็นเวลานานๆ 8. มาพร้อมลูกบิดและหย่อง Gotoh ผลิตในญี่ปุ่นและ Part อื่นๆเกรดคุณภาพทุกชิ้น ใช้เกรดเดียวกับกีตาร์เมกาหลักแสนบาท 9. เลือกได้เยอะ คุณสามารถเลือกสีของอะไหล่ได้เองไม่ว่าจะเป็นสีดำ สีทอง หรือสีเงิน สามารถเลือกสี Part ต่างๆเช่น Pickguard , ฝาครอบ Pickup ฝาโวลุ่ม,โทน ได้หลายสี และไม่จำเป็นต้องเป็น Set เดียวกัน เราสามารถสร้างกีตาร์ส่วนประกอบต่างๆได้ตามใจ เพราะนี่คืองานเกรด Custom 10. Handmade in Japan การันตีได้ว่า คุณจะได้งานฝีมือระดับเนี๊ยบที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในราคาที่คุณเอื้อมถึงได้ง่ายๆ
Line
Messenger
Phone
Messenger
Line
Phone