Author Archives: admin-iguitar

James Tyler Studio Elite 1987 รุ่นฉลองครบรอบ 35 ปี

James Tyler Studio Elite 1987

ไอเดียของ ซาร่าห์ ไทเลอร์ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปีอย่างเป็นทางการของรุ่น Studio Elite
กีตาร์ James Tyler รุ่น Studio Elite นั้นเริ่มต้นผลิตขึ้นในปี 1987 ซึ่งเป็นรูปทรง Body และ Headstock ที่เราคุ้นตากันดีในปัจจุบัน
จนมาถึงปี 2022 ก็ครบ 35 ปีพอดี

ส่วนของสเปคบอดี้จะเป็นไม้ Mamywo (Jelutong) เพื่อให้ได้ซาวด์ที่ทำให้นึกถึง Tylers รุ่นแรกๆ ที่ทุกตัวใช้ไม้ Mamywo ในการทำบอดี้
คอเป็น Quartersawn Maple ปะหน้า Indian Rosewood ทรง Standard ’59 ส่วนปิ๊กอัพตัว Neck/Mid เป็น HCS-Stingray 500
ตัว Bridge เป็น California Special แบบ Slant ทั้งเซ็ต ลูกบิด Hipshot Locking สีทองที่ใบลูกบิดเป็น Pearl
ที่จัดเต็มขั้นสุดคือวงจรคอนโทรลสวิตซ์ต่างๆ ทั้ง Mid Boost Preamp, Lead/Rhythm Circuit, Series/Parallel Switch
และ Neck/Bridge On Button ที่เปิดในงานปิ๊กอัพตัว Neck/Bridge เพื่อให้ได้ซาวน์แบบ Tele นั้นเอง
สเปคของรุ่นนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เพื่อคงความพิเศษของรุ่นฉลองครบรอบ 35 ปี เอาไว้นั่นเอง

James Tyler Studio Elite 1987 รุ่นฉลองครบรอบ 35 ปี ของโมเดล Studio Elite ที่มากับความพรีเมี่ยมสุดเเสนจะพิเศษ
โดดเด่นด้วยสี Malibu Beach Shmear พร้อมกับฮาร์ดแวร์สีทอง อินเลย์จะเป็น Gold Mother of Pearl ที่เฟรต 12 จะเป็นเลข 1987
ซึ่งเป็นปีที่เริ่มทำโมเดล Studio Elite ที่ Headstock เอง ทำ Faux Matching Headstock ตัวโลโก้เป็น Big California Signature อีกด้วย

ท่านที่กำลังสนใจสั่งคัสต้อม James Tyler USA ทัก inbox เพจร้าน iGuitar Music เข้ามาพูดคุยกับเราได้เลยครับ
ไม่ว่าจะอยากได้กีตาร์สีแบบไหน สเปคแบบไหน เราพร้อมจัดให้เลย iGuitar ยินดีดูแลทุกขั้นตอนจนถึงส่งมอบและหลังการขายครับ!!

↓ปรึกษาการสั่ง Custom James Tyler ได้ที่ Line@ ↓

https://lin.ee/PLDGoDi

Fender Player ii และการกลับมาของไม้ Rosewood

ใหม่ล่าสุด Fender Player II Series

ที่มากับสีใหม่ซึ่งเป็นสีสไตล์วินเทจของทาง Fender ในรุ่นสูง และที่สำคัญคือการกลับมาของฟิงเกอร์บอร์ด ” Rosewood ” ในรุ่นนี้ซึ่งต่างจากรุ่นแรกๆ ที่ใช้ไม้ Pau Ferro ในการทำฟิงเกอร์บอร์ด และลูกบิดสไตล์วินเทจ อีกด้วยแน่นอนว่าในทรงอื่นก็มีมาด้วยเช่นกันรออัพเดทราคาเข้าไทยผ่านทางเพจ iGuitar เร็วๆ นี้ครับ

Paul Ray Let’s Rock กีตาร์ Relic สไตล์ LP ที่งานดีเกินราคา

Paul Ray Let’s Rock Relic Series LP Style

กีตาร์รีลิคทรง LP รุ่นใหม่ของทาง Paul Ray Guitar ที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว สวยงาม
ผ่านกรรมวิธีที่ทำให้กีตาร์ดูเก่า ดูทรงคุณค่า ผ่านตามรอยแตกของสี ให้เหมือนกับผ่านการใช้งานมานานหลายปี

มีมาให้เลือกทั้งหมด 3 สี มีทั้งแบบ Heavy Aged ที่จะทำรีลิคมาแบบหนักๆ รอยแตก รอยสีลอกเยอะๆ ชัดๆ
และ Light Aged ที่จะได้ฟิลแบบกีตาร์ใช้งานมานานๆ จนสีลอกตามมุมต่างๆ มาให้เลือกตามความชื่นชอบของแต่ละคน
บอดี้ทำมาจากไม้ Lightweight Mahogany ชิ้นเดียว น้ำหนักค่อนข้างเบา อยู่ราวๆ 3.7-3.8 กิโลกรัมเท่านั้น ถือเป็นจุดขายของรุ่นนี้เลย
ปะหน้าด้วย Flame Maple Veneer เพื่อเพื่มความสวยงามของตัวกีตาร์ และทำให้รอยแครก รอยแตกของสี ดูชัดขึ้นทันที
คอทำมาจากไม้ Lightweight Mahogany ชิ้นเดียวเช่นกัน และเคลือบแบบบาง ยังให้ความลื่นไหลทุกๆ ช่วงคอ ไม่เหนียวเหมือนคอเคลือบเงา
ฟิงเกอร์บอร์ดเป็นไม้ Rosewood 22 เฟรต Radius 12″ ปิ๊กอัพจะเป็นรุ่น Paul Ray Standard Alnico Humbucker
ที่เมื่อเล่นกับเสียงแตกมีความทรงพลัง ดุดัน หางเสียงยาว เล่นกับเสียงคลีนก็หวาน อุ่น หนา ตามสไตล์ของกีตาร์ทรงนี้
พร้อมกับของแถม และกล่องฮาร์ดเคสสุดพรีเมี่ยมจากทาง Paul Ray Guitar อีกด้วย

เบสโมเดลใหม่จาก SAITO เอาใจคนชอบรูปลักษณ์แบบ Classic

New Saito Bass Model “S-420bCSJ”

ใหม่ล่าสุด!!! จาก Saito เบสรุ่น S-420bCSJ ทรง Jazz มีทั้ง 4 สายและ 5 สาย
รุ่นนี้จะมากับ ปิ๊กการ์ด 3 ชั้นพร้อมติดตั้ง Chrome-plated fence เพื่อลองรับการเล่นแบบ Slap
เฟรตบอร์ดเป็น Compound Radius 7.25-10 นิ้ว เล่นง่ายทั่วทั้งคอและทีเด็ดคือชุดปิ๊กอัพ SAYTONE Vantage+
ซึ่งเป็นปิ๊กอัพแบบ Hand Winding จากทาง Saito เองอีกด้วย
สามารถสั่ง Custom เลือกสีบอดี้และชนิดของคอได้




เปิดตัว Power Supply รุ่นใหม่จาก Walrus Audio

𝐍𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐧𝐯𝐚𝐬 𝐏𝐨𝐰𝐞𝐫 𝐒𝐮𝐩𝐩𝐥𝐲

เป็นกระแสมากๆ กับ Canvas Power ตัวจ่ายไฟที่มีทั้งขนาดที่เล็ก บางและน้ำหนักเบา
เป็น fully isolated แท้ๆ เรื่องสัญญาณรบกวนหายห่วงได้เลย มีมาให้เลือกทั้งแบบ 5, 8, 15 และ 22 ช่อง สามารถต่อลิ้งกันได้มากสุด 2 ตัว เรียกได้ว่าครอบคลุมผู้ใช้งานทุกระดับ ไม่ว่าจะบอร์ดเล็กบอร์ดก็เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมได้เลย

Fender เปิดตัวรุ่นใหม่ American Professional II Thinline Collection

Fender American Professional II Thinline Collection

การกลับมาของ Stratocaster Thinline ที่คุ้นหน้าคุ้นตาในรุ่นซิกเนเจอร์ของ Eric Johnson ที่ยกเลิกการผลิตไป
รอบนี้ Fender ได้เปิดตัว Thinline Collection Limited Edition ในราคา $1,949.99 หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 7 หมื่นกว่าบาท
มีทั้งทรง Strat และ Tele โดย Spec บอดี้เป็น Semi-Hollow Ash โทนสีพาสเทล See Thru ที่จะมองเห็นลายไม้นิดๆ
คอ Maple ปะหน้า Rosewood ทรง Deep “C” เรเดียส 9.5″ ชุดปิํกอัพ V-Mod II Single-Coil Strat®
ความพิเศษอีกอย่างคือ Push-Push Tone ที่สามารถเปิดใช้งาน Neck Pickup เมื่อเราปรับ Selector ไปที่ตำแหน่งที่ 1 และ 2
เพื่อสร้างคาแรคเตอร์เสียงได้หลากหลายมากขึ้น มาพร้อมกับ Fender Deluxe Molded Hardshell Case

ใครที่ชื่นชอบทรง Strat หรือ Tele ที่เป็น Semi-Hollow ต้องไม่พลาด เพราะเป็น Limited Edition
และแน่นอนว่าชื่อรุ่น American นั้นคืองานผลิต Made in USA การันตีคุณภาพ และเสียง ว่าดีแน่นอน
ติดตามอัพเดทราคา และวันสินค้าเข้าได้ทางเพจ iGuitar เลยครับ

เปิดตัว Fender American Professional II Thinline Collection ใหม่ล่าสุด
ใครที่ชื่นชอบทรง Strat หรือ Tele ที่เป็น Semi-Hollow ใน Collection นี้ก็มีมาทั้งสองทรงเลย โทนสีพาสเทล See Thru ที่จะมองเห็นลายไม้นิดๆ พิเศษไปกว่านั้นคือปิ๊กอัพ V-Mod II Stratocaster single-coil ที่ให้มาในรุ่นนี้ สินค้าเข้าตอนไหนรอติดตามอัพเดททางเพจ iGuitar ได้เลย
「𝐅𝐞𝐧𝐝𝐞𝐫 𝐋𝐢𝐦𝐢𝐭𝐞𝐝 𝐄𝐝𝐢𝐭𝐢𝐨𝐧 𝐀𝐦𝐞𝐫𝐢𝐜𝐚𝐧 𝐏𝐫𝐨𝐟𝐞𝐬𝐬𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐈𝐈 𝐒𝐭𝐫𝐚𝐭𝐨𝐜𝐚𝐬𝐭𝐞𝐫® 𝐓𝐡𝐢𝐧𝐥𝐢𝐧𝐞」
การกลับมาของ Stratocaster Thinline ที่คุ้นหน้าคุ้นตาในรุ่นซิกเนเจอร์ของ Eric Johnson ที่ยกเลิกการผลิตไป รอบนี้ Fender ได้เปิดตัว Thinline Collection ที่มีมาทั้งทรง Strat และ Tele 
บอดี้เป็น Semi-Hollow Ash คอ Maple ปะหน้า Rosewood ทรง Deep "C" เรเดียส 9.5" ชุดปิํกอัพ V-Mod II Single-Coil Strat® ความพิเศษอีกอย่างคือ Push-Push Tone Control ที่สามารถเปิดใช้งาน Neck Pickup เมื่อเราปรับ Selector ไปที่ตำแหน่งที่ 1 และ 2 เพื่อสร้างคาแรคเตอร์เสียง ได้หลากหลายมากขึ้น มาพร้อมกับ Deluxe Molded hardshell case

𝐓𝐎𝐍𝐄𝐗 𝐎𝐍𝐄 เอฟเฟคขนาดกะทัดรัดที่รวมโปรไฟล์แอมป์, คาบิเน็ต และก้อนโมเดลเด็ดๆ ไว้เพียบ!!

TONEX ONE เอฟเฟคก้อนขนาดกะทัดรัด รวมโปรไฟล์แอมป์ คาบิเน็ต เอฟเฟคก้อน ไว้มากมาย สามารถโหลดโมเดลของ TONEX software และปรับแต่งได้อย่างสะดวกง่ายดาย

IK Multimedia AmpliTube เปิดตัว TONEX ONE

ก้อนขนาดกะทัดรัด รวมโปรไฟล์แอมป์ คาบิเน็ต และเอฟเฟคก้อนเด็ดๆ ไว้มากมาย ตามคอนเซปท์ UNLIMITED TONE FOR ALL




Key Features

  • Load Them Up, AI Style – Load and play AI Tone Modeled amps, cabs, and pedals
  • Connection is King – TRS mono/stereo out to connect real amps, PA or FRFR cabs
  • Full of Presets – Load up to 20 presets in A/B or on/off configurations
  • Built-In Tuner and Effects! – Onboard tuner, EQ, gate, compressor and reverb
  • Want Multiple with different Lights? – Customizable micro-knob colours, making it simple to add multiple pedals to your chain.
  • Consult the TONEX Archives – TONEX Librarian to load and organize over 25,000 Tone Models and counting…
  • TONEX Software – Model your real rig with included TONEX SE software
  • Silent Practice – Mono input and stereo/mono TRS output that doubles as a headphone out for silent playing.
  • Its Also an Audio Interface – The TONEX ONE also doubles as a 24 bit/44.1 kHz USB audio interface, so you don’t need any other gear to plug into your studio. Record with or without the onboard preset for low-latency recording.

TONEX ONE works with any guitar or bass rig including real amps, PA systems, or FRFR cabinets. It fits easily on any pedalboard and is small enough to add multiple units without sacrificing valuable space.

The TONEX Archives

Choose from a library of thousands of rare, one-of-a-kind amps and rigs, or use the included TONEX software to model your own gear to take your custom tone anywhere.

The TONEX ONE includes 200 Premium Tone Models of your choice, access to over 25,000 free user Tone Models on ToneNET, and the option to expand with premium Tone Partner and Signature collections.

Inspiring Presets

Load up to 20 presets with 3 playable slots to use any time. You can load any combination of pedal, amp and whole-rig models. Select between two performance modes: Dual A/B or on/off operating modes.

Load Impulse Responses

Load any custom IR or use IK’s VIR cabinets to fully customize your sound.

Includes an onboard tuner, noise gate, EQ and compressor, and 5 stereo reverbs including hall, room, plate, and 2 spring reverbs.

The Power of the TONEX SE Software

The included TONEX SE software can be used to capture your rig, organize and transfer Tone Models, as a standalone application, or a plug-in integrated with your DAW to enjoy the exact same tone you use live in your studio productions.



iGuitar Music

สาวก Pop-Punk พลาดไม่ได้!!! Signature ใหม่ล่าสุดของ Tom Delonge มือกีตาร์/ร้องนำ วง Blink 182

Blink 182 Fender Tom DeLonge

ทาง Fender ได้เปิดตัว Signature รุ่นใหม่ล่าสุดของ Tom DeLonge

กีตาร์ร้องนำจากวง Blink 182 วงป็อปพังค์ระดับตำนาน

โดยเป็นทรง Starcaster ปิ๊กอัพเดียว ซึ่งหลายคนอาจเห็นตามคลิปคอนเสิร์ตของวงมากซักพักแล้ว
มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน Shoreline Gold, Surf Green, Olympic White, Shell Pink โดยทุกตัวจะเป็นคอดำ
นอกจากนี้ยังให้สเปคเป็นคอ Roasted Maple (คอเผา) ถือว่าตรงยุคมากๆ
มาพร้อมปิ๊กอัพเดียว วอลุ่มเดียว โดย Pickups เป็นของ Seymour Duncan รุ่น SH-5 ความแรงระดับ medium output
และวอลุ่มที่ใส่ Treble Bleed Circuit มาด้วย ช่วยรักษาย่านเสียงแหลมเวลาลดวอลุ่ม ตอบโจทย์สาย Punk สุดๆ
สำหรับราคานั้นทาง Fender เปิดตัวไป 1,200 usd หรือประมาณ 44,000 บาท



Tom DeLonge Blink 182 Fender Starcaster

ใหม่!! Positive Grid เปิดตัว Wireless Guitar ขนาดเล็กดีไซน์หรู กับ Spark Link !!!

𝐏𝐨𝐬𝐢𝐭𝐢𝐯𝐞 𝐆𝐫𝐢𝐝 𝐒𝐩𝐚𝐫𝐤 𝐋𝐢𝐧𝐤 𝐖𝐢𝐫𝐞𝐥𝐞𝐬𝐬 𝐆𝐮𝐢𝐭𝐚𝐫 𝐒𝐲𝐬𝐭𝐞𝐦 ปัญหาสายเเจ็คเกะกะจะหมดไปด้วย Spark Link Wireless Guitar จากค่าย Positive Grid ที่ออก Product ตัวไหนมาก็ฮิตแบบสุดๆ สำหรับ Spark Link Wireless Guitar รุ่นนี้ ส่งสัญญาณได้ไกลถึง 20 เมตร เพียงเสียบเข้ากับกีตาร์ เปิดเครื่อง ก็ใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรซับซ้อน พร้อมยังมี 4 ช่องสัญญาณที่คุณสามารถใช้ Spark Link หลายตัวพร้อมกันได้ เหมาะทั้งใช้แสดงสด หรือฝึกซ้อม แบตเตอรี่ built-in ที่มีมาให้ ใช้ได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง

กีตาร์ไฟฟ้า 2 ทรง ยอดนิยมตลอดกาล

The most popular guitar style (Strat and Tele)
Credit Image: Paul Davids
กีตาร์ไฟฟ้ามีหลากหลายทรงมากๆ แต่หลายคนจะคุ้นตากีตาร์ไฟฟ้าที่มีหน้าตาแบบ Stratocaster มากที่สุด
ด้วยความที่หน้าตาดูเรียบง่าย สวย คลาสสิค บางสีก็ดูหรูหราไปเลย และอีกทรงที่นิยมไม่แพ้กันคือ Telecaster
ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ Strat ในหลายเรื่อง มี Scale Length เหมือนกัน Neck Shape คล้ายกัน Headstock คล้ายกัน
แต่ด้วยทรงของ Body ที่เป็นแบบ Single Cut และชนิดของ Pickups สไตล์ Tele ที่ซาวด์เป็นเอกลักษณ์มากๆ

แบรนด์ทางเลือก
ในปัจจุบันนอกจากแบรนด์ Fender ที่เป็น Original ของทั้ง 2 ทรงนี้แล้ว ก็ได้มีแบรนด์ทางเลือกออกมามากมาย
ที่ยังคงรูปลักษณ์แบบ Original ไว้ แต่ใช้วัสดุที่แตกต่างกัน อย่างแบรนด์ Shijie จากจีนที่ขึ้นชื่อว่างานประกอบสุดยอดมากๆ
และเลือกใช้ไม้ที่มี Grain สวย คัดเกรดอย่างดี คอเป็นไม้ Quarter Sawn Roasted Maple เป็นไม้เสี้ยนตรง เพิ่มความแข็งแรง
แบรนด์ Gilmour จากประเทศเกาหลี ที่สามารถ Custom Spec ทั้งไม้ และวงจรได้หลากหลายมาก
หรือแบรนด์ Paul Ray ที่รุ่น Relic ราคาเกือบ 2 หมื่นบาท แม้ราคาค่อนข้างสูงแต่ได้รับการตอบรับอย่างดี
จึงมีรุ่น Relic Aged ออกตามมา ซึ่งอยู่ในช่วงราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น ก็ได้รับการตอบรับจน out of stock ภายในเวลาไม่กี่เดือน
ล่าสุดได้ออกซีรี่ย์ Classic Plus S และ Classic Plus T เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ชอบความ Classic ในสีสันใหม่ๆ ราคาเข้าถึงง่าย ไม่เกินหมื่น
ที่คุณภาพดีเกินราคา และมีนักดนตรีอาชีพนำไปใช้งานจริงๆ

ใหม่ล่าสุด!! POD Express เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว

Line 6 POD Express Guitar และ Bass ขนาด Stompbox สำหรับท่านที่อยากพกพามัลติเล็กๆไปเล่นได้ทุกที่

เรียกได้ว่านี่คือ POD ที่พกพาสะดวกที่สุดของ Line6 ก็ว่าได้ มีโมเดลแอมป์ 7 รุ่น การจำลองดอกลำโพง 7 แบบ และเอฟเฟค 17 แบบที่ใช้เทคโนโลยีจากตระกูล HX
พร้อมด้วย Tuner , Noise Gate และ Looper ก็ให้มาด้วย ควบคุมง่ายสุดๆ สามารถใส่แบตเตอรี่ หรือ adaptor จ่ายไฟเสริมได้ เราจึงสามารถพกพาไปได้ทุกที่
POD Express มีปุ่ม Tab Tempo ช่อง Stereo output และเสียบหูฟัง ยังใช้เป็นอินเทอร์เฟซผ่านช่อง USB-C ในตัวเพื่อการบันทึกเสียงได้อีก
มีช่อง Expression เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการควบคุมค่าต่างๆได้ หรือจะใช้เสียบ Foot Switch ได้สูงสุดถึงสองตัวสำหรับการเปลี่ยน Preset หรือการเปิด/ปิดเอฟเฟค
เปิดให้จองแล้วสำหรับ POD Express Guitar และ Bass ราคาพิเศษถึงสิ้นเดือนมีนาคม 67 นี้ ทักไลน์มาเลย







KEMPER PROFILER PLAYER ยกแอมป์เด็ดๆมาไว้ในก้อน 3 ปุ่ม!!

<เปิดจองแล้ว> KEMPER PROFILER PLAYER ร้อนๆ ใหม่ล่าสุด เพิ่งเปิดตัวสดๆไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้ แอดรีบเอามาอัพเดทให้มือกีตาร์ทุกท่านอ่าน!!
เพราะนี่คือก้อนเหยียบขนาด 3 ปุ่ม แบบเคลื่อนที่เร็ว อัดแน่นด้วยขุมพลังแอมป์จาก KEMPER ที่ได้ชื่อว่าเป็นการโคลนแอมป์ที่ดีที่สุดแบรนด์หนึ่งในโลก
เจ้าตัวนี้จะเอาโทนแอมป์ที่ดีที่สุดบนโลกมาให้ทุกคนได้พกพาไปทุกที่ ไม่ว่าจะเอาออกไปทำงานนอกสถานที่,การแสดงสดและพกไปอัดเสียงตามสตูดิโอ
หรือสถานที่ต่างๆได้ตามที่คุณต้องการ มาพร้อมฟังก์ชั่นมาตรฐานของ KEMPER ตัวใหญ่ เช่นการโหลดแอมป์จากคลังแอมป์ที่มีบริการฟรีหรือเสียเงินซื้อได้จากผู้ให้บริการทั่วโลก
สามารถโหลด IR ลงได้ ,มี 444FX ให้เลือกใช้บน 4FX slots,มีช่องต่อ Foot Expression ได้ , ต่อ Poweramp ได้ , คอนโทรล Midi ได้ผ่าน USB2 , สามารถ Edit ผ่านมือถือ/แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ Apple/Android/macOS/Window
รายละเอียดอีกเพียบเลย เด็ดมาก!!


สั่งจองด่วน Pre Order ราคา 26,900 บาท มีจำนวนจำกัด!! ทักเลยไลน์ @iguitar

Paul Ray Classic Plus Series รุ่นใหม่ จัดเต็ม มีอะไรเพิ่มเติมขึ้นบ้าง?

นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Paul Ray Guitars ในรุ่นสี Solid ที่มาในปี 2023 ได้จัดเต็มสเปคใหม่ และการผลิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด


สีใหม่ในรุ่นใหม่ ◄ ในครั้งนี้ทาง PRG ได้ออกสีใหม่อย่าง Pastel Sonic Blue ที่เป็นสีที่สว่างกว่าสี Sonic Blue แบบปรกติ ตรงตามเทรนในยุคนี้ที่สี Pastel กำลังมาแรง รวมไปถึงสี Shell Pink รุ่นใหม่ที่นิยมไม่แพ้กัน อีกทั้งในรุ่นที่เหนือขึ้นไปอีกอย่างรุ่น Roasted ยังมีสีพิเศษแบบ See Thru ทั้งสองสี Pastel Sonic Blue , White และ Surf Green ที่ทำสีให้มองเห็นไม้บอดี้ด้านล่างนิดๆ ตัวจริงสวยมากๆ

งานสีในแบบที่กีตาร์ควรจะเป็น ◄ บ่อยครั้งที่เราซื้อกีตาร์ใน range เดียวกันแต่กลับได้งานสีที่ดูไม่สวย และดูไม่ใช่กีตาร์ราคาสูง แต่มาตรฐานของ PRG ให้สีพิเศษที่อยู่ในกีตาร์พรีเมี่ยมเกรด และโทนสีทั้งหมดจะเป็นในแบบที่กีตาร์ที่ดีควรจะเป็น ถ้าได้มาดูตัวจริงจะเห็นถึงความแตกต่าง เราใช้สีพรีเมี่ยมเกรด ที่คุณสามารถถมองออกว่า “แตกต่าง” ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

คอเผาในรุ่น Roasted ◄ ครั้งแรกที่ PRG ผลิตกีตาร์คอเผา Roasted Maple Neck ออกมาเพิ่อเป็นทางเลือกให้กับมือกีตาร์และมือเบสที่ชื่นชอบซาวน์และสัมผัสของคอเผา เสียงกลางที่ชัดเจนและสัมผัสที่เรียบเนียนของคอเผา ทำให้รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ถูกใจคนเล่นได้อย่างแน่นอน เพราะมันดีจริงๆๆๆ

เรเดียส 16″ ◄ เรเดียสที่เหมาะกับผู้เล่นทุกสไตล์ไม่ว่าจะเริ่มต้นหรือมืออาชีพ ดันสายง่าย ไม่เปลืองแรง จะเล่นแบบไหนก็ถนัด ไม่ว่าจะปั่นเร็วๆหรือเล่นช้าๆเพราะๆก็เอาอยู่

Locking Tuner ◄ มือกีตาร์ที่ชอบเล่นคันโยกมักมีปัญหาสายเพี้ยน PRG จึงอัพเกรดลูกบิดล็อคสายมาให้ในรุ่น Classic Plus และเป็นอะไหล่เกรดเยี่ยมอีกด้วย

Wilkinson Bridge ◄ ในรุ่น Classic Plus มาพร้อม Wilkinson Vintage Tremolo Bridge แบบ Block เต็มให้ทุกตัว รวมไปถึง Tele และ J Bass ก็ให้ Bridge ของ Wilkinson แบบ Saddle ทองเหลืองมาอีกด้วย ได้ TOne , Sustain และ Harmonic ที่ยอดเยี่ยมแน่นอน

ขุมพลัง Pickup ของทาง Paul Ray ◄ ด้วย Pickup ที่ออกแบบโดย PRG เอง ทำให้ได้โทนที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร คุณภาพมาตรฐานสูง ท้าให้มาลอง!

กระเป๋าแบบบุหนา 10mm ◄ โดยปรกติกีตาร์ใน range เดียวกันมักจะให้กระเป๋าที่บางมากเช่น 5-8mm ทำให้ใช้งานไม่ได้จริงและส่วนใหญ่มี Design ที่ไม่สวยงาม แต่ PRG ทุกรุ่นจะมาพร้อมกระเป๋า design สุดล้ำแบบบุหนาถึง 10mm มาให้คู่ตัวเลย จัดเป็นตัวจบได้เลยโดยไม่ต้องไปหาซื้อกระเป๋ามาใหม่



สนใจเข้าไปดูกีตาร์และรุ่นทั้งหมดได้เลยที่

ถอดรหัส HX ONE ใหม่ล่าสุดจาก Line6 สำหรับคนรัก Effect ก้อน 250+ เสียงในตัวเดียว

🎸 เปิดตัวกันไปไม่กี่ชั่วโมงนี้เรียบร้อยแล้วกับ Line6 รุ่น HX ONE ใหม่ล่าสุด ที่แอดเพิ่งได้รับอีเมล์จาก Line6 และได้เห็นข่าวจากหลายๆร้านกีตาร์ทั่งโลกอย่าง Sweetwater หรือ Peach Guitar ได้ลงบทความกันแล้ว ทุกอย่างดูดีมาก วันนี้เราจะมาถอดรหัสกับว่าเจ้าตัวนี้ทำอะไรได้บ้างและน่าสนใจแค่ไหน!

▷ Line6 บอกเราว่าเจ้านี่มันคือ Stereo effect pedal ที่ทรงพลังและมีขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษ แน่นอนเราจะได้ก้อน Stomp ที่มีเสียงเยอะมากเหมือนแจกฟรี

มี In/Out แบบ Stereo แต่มีขนาดเล็กเท่ากับ Effect ก้อนทั่วไป แถมยังการันตีว่าใช้งาน “ง่าย” แอดเดาว่าการใช้งานจะยืดหยุ่นมากๆ ตามสไตล์การออกแบบของ Line6 ทีมีชื่อเสียงอย่างยาวนาน

▷ ใช้ชิปคุณภาพเดียวกันกับตระกูล HX ให้เสียงมามากถึง 250+ เสียงแต่มาในไซส์คอมแพคสุดๆ ยกกันมาครบทั้งแสียงแตก Delay Reverb Modulation Wah Pitch และอีกมากมาย

▷ Flux Controller กับฟังก์ชั่นที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงค่าพารามิเตอร์ต่างๆโดยการกดในครั้งเดียว ทำให้เราปรับเสียงได้หลากหลายขึ้น ยกตัวอย่างเช่นปรับค่าของ Rate , Delay Mix หรือ Gain , EQ และอีกมากมาย ปรับได้ทุกอย่างตามที่เราต้องการ และปุ่มนี้สามารถใช้เป็น Tap Tempo ได้อีกด้วย

▷ In/Out จะเป็นแบบ Stereo เลือก Impedance ได้และสามารถ Send/Return ผ่านช่อง I/O นี้ไปยังแอมป์ได้ รองรับการต่อแบบ 4 Cables

▷ ที่ขาดไม่ได้ มาพร้อมกับ Midi I/O ให้เราสามารถใช้อุปกรณ์ตัวอื่นคอนโทรลเจ้าตัวนี้ได้ หรือจะส่งไปคอนโทรลก้อนอื่นๆที่มี Midi ได้ ทำให้การออกแบบบอร์ดของคุณสะดวกมากขึ้น

▷ สามารถต่อ Expression ได้ 1 ตัวหรือคุณจะต่อ Foot Switch 2 ตัวก็ทำได้ หรือคุณจะต่อ Exp 1 กับ FS เพียง 1 ตัวก็ได้เช่นกัน

▷ จอเป็น OLED แสดงค่าพารามิเตอร์ 3 แบบพร้อม 3 Knob Control ต่อกับ PC โหลด HX ONE Libralian เพื่อการปรับที่สะดวกมากขึ้น รองรับทั้ง OSX และ Window

▷ สามารถเลือกให้เป็น True Bypass หรือ DSP Bypass ได้ , มี Tuner ให้มาในตัว และมี Looper ให้ไว้ใช้ซ้อมกันอีกด้วย

🎸 ถ้าคุณเป็นแฟนของ Hx Family ถ้าชื่นชอบเสียงค่ายนี้อยู่แล้วไม่ควรจะพลาดจริงๆ ถามแอดว่าแอดจะซื้อไหม แอดซื้อแน่นอน!ไม่ยอมพลาดเช่นกัน เพราะ Stomp ที่เสียงเยอะขนาดนี้และขนาดเล็กแบบนี้ ปรับได้เยอะขนาดนี้ คอนโทรลได้ง่ายสะดวกสบาย ใครมันจะอดใจไหว! (เขียนบทความนี้ในระหว่างที่แอดกำลังต่อบอร์ด Hx Stomp เล่นอยู่พอดี :))

ราคาที่ Sweetwater $299.99 หรือประมาณหมื่นนิดๆ เปิดตัวในไทยเมื่อไหร่แอดจะรีบรายงานให้ทราบเลยครับ

🎸 แอดมินรายงาน

***สนใจกดติดตามเพจไอกีตาร์เพื่อจะไม่พลาดข่าวสารอัพเดท เราเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Yamaha Thailand (ซึ่ง Line6 อยู่ในเครือ) และมีหน้าร้าน Yamaha Store by iGuitar ที่ชั้น 3 ฟอร์จูน แวะมากันได้เล้ย

เดือดมาก!! Fender Tone Master Pro !!

เดือดมาก!! Fender Tone Master Pro !! สุดเซอร์ไพรส์ เมื่อค่ายพี่บิ๊กของเราอย่าง Fender ลงมาถล่มตลาดมัลติด้วยมัลติรุ่นสุดอลังการใหม่ล่าสุด พี่เค้ารวบรวมแอมป์พีคๆจากทาง Fender เองและค่ายในเครืออย่าง EVH มาให้ใช้กันอย่างจุใจ ได้ใช้ชื่อแอมป์ตรงๆไม่ต้องอ้อมค้อมกันแล้ว เช่น Fender ’65 Deluxe Reverb® , EVH 5150III นอกจากนี้ยังมีก้อนๆและแอมป์จากค่ายอื่นๆเช่น Marshall , Mesa , Vox , Friedman ให้มาอย่างครบถ้วนอีกด้วย และสามารถ Loop ก้อนได้อีกถึง 4 ก้อนเลยทีเดียว! นอกจากจอทัชสกรีนตามมาตรฐานสุดยอดมัลติสมัยใหม่แล้ว ยังสามารถโชว์รูปแอมป์และก้อนสวยๆให้มองเพลินๆได้ด้วย ที่พีคกว่านั้นคือปุ่มเหยียบสามารถหมุนเพื่อปรับค่าพารามิเตอร์ต่างๆของ Amp Knob และ Pedal Knob ได้อีก! โคตรได้ฟิล และปุ่มเหยีบบก็มีสีสันสวยงามน่าใช้สุดๆ อัพเดทราคาล่าสุดจากเว็บ Fender เหลือ $1,699 แล้ววว ส่วนจะทำได้ดีขนาดไหน เสียงจะเป็นยังไง การจำลองแอมป์จากค่าย Fender และ EVH จะทำได้ดีขนาดไหน โปรดติดตามตอนต่อไป
แอดมินรายงาน

Fender Tone Master Pro
Effects:

Gain:

Clean Boost
Dallas Rangemaster Treble Booster
Marshall Bluesbreaker
Analogman Prince of Tone
Paul Cochran Timmy
Ibanez TS808 Tube Screamer
Klon Centaur
Nobels ODR-1BC
B.K. Butler Tube Driver
Boss DS-1
MXR Distortion Plus
Seymour Duncan Palladium Gain Stage
Pugilist Distortion
Pro Co RAT
Electro-Harmonix Green Russian Big Muff Pi
Electro-Harmonix Big Muff Pi Ram’s Head
Fuzz Face (Germanium)
Fuzz Face (Silicon)
Seymour Duncan Tweak Fuzz
Tycobrahe Octavia
Octobot

Modulation:

Tube Bias Tremolo (Fender Princeton® Reverb)
Harmonic Tremolo (Fender Harmonic Vibrato)
Optical Tremolo (Fender Twin Reverb)
Boss TR-2 Tremolo
Roland JC-120 JC Chorus
Roland JC-120 JC Vibrato
Fender Vibratone
Uni-Vibe
Leslie 147 Rotary Speaker
Leslie 122 Rotary Speaker
Boss BF-3 Flanger (Mono, Stereo)
MXR Flanger
Electro-Harmonix Electric Mistress
MXR Phase 90
Boss PH-3 Phaser
Boss CE-5 Chorus (Mono, Stereo)
Boss DC-2 Dimension C
Dyno My Piano Tri-Stereo Chorus
Orbit Stereo Panner
Delay:
Auto-Swell Delay
Digital Delay Mono
TC Electronic 2290 Delay – Dynamic
TC Electronic 2290 Delay – Studio
Echo Filter (Mono, Stereo)
Electro-Harmonix Deluxe Memory Man (Mono, Stereo)
Ping Pong Delay
Roland RE-201 Space Echo (Mono, Stereo)
Reverse Delay
Maestro Echoplex EP-3

Reverb:

’63 Spring Reverb
’65 Spring Reverb
Large Hall Reverb
Small Hall Reverb
Large Plate Reverb (EMT 140)
Large Room Reverb
Modulated Large Hall Reverb
Modulated Small Hall Reverb
Cloud Reverb
Celestial Reverb
Nebula Reverb
Shimmer Reverb

Dynamics + EQ:

MXR Dynacomp (Dynamic, Simple)
Boss CS-3 Compression Sustainer
Studio Compressor
MXR M-163 Sustain
EQ3 Parametric
Mesa Boogie Mark IIC+ graphic equalizer
Boss GE-7 graphic equalizer)
Noise Gate
ISP Technologies Decimator II G String
Simple Noise Gate
Volume Pedal
Auto Swell
Filters + Pitch:
Dunlop Crybaby 535Q Wah
Dunlop Crybaby GCB-95 Wah
Vox V847 Wah
Pitch Shifter
Harmonizer
Feedback Generator
DigiTech Whammy
DigiTech Whammy Detune

Amps:

Fender ’59 Bassman® (Combo, Head)
Fender ’65 Princeton® Reverb (Combo, Head)
Fender ’65 Deluxe Reverb® (Combo, Head)
Fender ’65 Twin Reverb® (Combo, Head)
Fender ’65 Super Reverb® (Combo, Head)
Fender Vibro-King® (Combo, Head)
Fender Blues Junior™ (Combo, Head)
Fender Bassbreaker™ (Combo, Head)
Vox AC30 Normal Channel (Combo, Head)
Vox AC30 Brilliant Channel (Combo, Head)
Mesa/Boogie Mark I (Combo, Head)
Mesa/Boogie Mark IIC+ (Stack, Head)
Mesa/Boogie Dual Rectifier (Stack, Head)
Roland JC-120 Jazz Chorus (Combo, Head)
Marshall 1959 Super Lead Plexi (Stack, Head)
Marshall JCM800 2204 (Stack, Head)
Marshall Silver Jubilee 2553 – Clean (Stack, Head)
Marshall Silver Jubilee 2553 – Rhythm (Stack, Head)
Marshall Silver Jubilee 2553 – Lead (Stack, Head)
Friedman BE-100 (Stack, Head)
EVH 5150III 6L6 – Green Channel (Stack, Head)
EVH 5150III 6L6 – Blue Channel (Stack, Head)
EVH 5150III 6L6 – Red Channel (Stack, Head)
Bogner Uberschall (Stack, Head)
Custom Studio Preamp (Head Only)
Custom Tube Preamp (Head Only)
Fender Acoustasonic™ Preamp (Head Only)

Cabs:

1×10 Fender ’65 Princeton with Jensen® C10R
1×12 Fender ’65 Deluxe Reverb® with Jensen® C12K
1×12 Fender ’65 Deluxe Reverb with Celestion® Creamback
1×12 Fender Bassbreaker with Celestion® V-Type
1×12 Fender Blues Junior with Celestion® A-Type
1×12 Fender Blues Junior LTD with Jensen® C12N
2×12 Fender ’65 Twin Reverb with Jensen® C12K
2×12 Fender ’65 Twin Reverb with Celestion® Creamback
2×12 Fender Vibro-King with Celestion® Vintage 30
3×10 Fender Vibro-King with Jensen P10R
4×10 Fender ’59 Bassman with Jensen® P10R
4×10 Fender ’65 Super Reverb with Jensen® P10R
1×12 Mesa/Boogie Mark IIC+ with EVM12L
2×12 Vox AC30 with Celestion® Alnico Blue
2×12 Vox AC30 with Celestion® Greenback
2×12 Roland JC-120 Jazz Chorus
2×12 Marshall Jubilee with Celestion® G12-75
4×12 Marshall 1960TV with Celestion® Greenback
4×12 Marshall 1960A (late-’80s) with Celestion® G12T75
4×12 Marshall 1960A (late ’80s) with Celestion® Vintage 30
4×12 Friedman with Celestion® Vintage 30
4×12 EVH 5150 IIIS with Celestion® G12 EVH 20W
4×12 Mesa Boogie Rectifier (Standard) with Celestion® Vintage 30
4×12 Mesa Boogie (1985 Half-Back) with Vintage Black Shadow
4×12 Bogner Uberkab with Celestion® G12T75
4×12 Bogner Uberkab with Celestion® Vintage 30

Microphones:

Sennheiser MD 421 dynamic
Royer Labs R-121 ribbon
Electro-Voice RE20 cardioid dynamic
AKG C414 condenser
Earthworks Audio M23 condenser
Shure SM7B dynamic
Shure SM57 dynamic

จะสั่ง Custom Saito Guitars เลือกสีอะไรได้บ้าง

จะสั่ง Custom Saito Guitars เลือกสีอะไรได้บ้าง ? วันนี้เราจะมาพูดถึงสีในไลน์การผลิตของ Saito Guitars เพื่อช่วยให้พีๆ เพื่อนๆ ที่คิดจะ Custom Saito Guitars แล้วยังลังเลว่าจะเอาสีอะไรดี บทความนี้อาจะช่วยให้ Custom ได้ง่ายขึ้น และได้รู้ว่ามีสีอะไรบ้าง สีไหนทำในรุ่นไหนบ้าง ไม่ทำในรุ่นไหนบ้าง ไปดูสีของ Saito Guitar กันเลย หวังว่า บทความนี้ที่เราเตรียมมาจะช่วยประกอบการตัดสินใจของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่กำลังตัดสินใจจะ Custom กีต้าร์กับทาง Saito Guitars ไม่มากก็น้อย ถ้าสงสัยอะไรตรงไหน หรืออยากสั่ง Custom ก็สามารถแอดไลน์ @iGuitar ทักมาคุยกับเราได้เลย มีน้องๆดูแลแนะนำ ทุกขั้นตอนไนการ Custom ครับ

Strymon เปิดตัว Reverb รุ่นใหม่ในราคา ไม่ถึงหมื่น!!!

Strymon เปิดตัว Reverb รุ่นใหม่ในราคา ไม่ถึงหมื่น!!!

Strymon เปิดตัว Cloudburst Ambient Reverb ซึ่งเป็นเอฟเฟคก้อนที่มีราคาไม่แพงและยังมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด
Cloudburst Ambient Reverb  เอฟเฟคก้อนที่เป็นมิตรกับมือกีตาร์ ช่วยยกระดับเสียงสะท้อนของ Reverb ให้แวววาวมีมิติขึ้นอีกระดับ ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับฟอร์มแฟคเตอร์ที่สดใหม่และราคาที่เป็นมิตรต่อเงินกระเป๋าของคุณ

อย่างที่กล่าวมาข้างต้น Strymon ได้ใช้ชื่อเจ้าตัว Reverb ตัวใหม่นี้ว่า “Cloudburst Ambient Reverb” ซึ่งเปิดตัวฟอร์มแฟคเตอร์ใหม่สำหรับบริษัทพร้อมกับทำราคาใหม่ให้จับต้องได้ง่ายมากขึ้น ตามที่แนะนำ เอฟเฟคก้อนนี้สร้างขึ้นบนอัลกอริทึมของคลาวด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของ BigSky รุ่นเรือธงของทาง Strymon แต่ปรับให้ครอบคลุมเสียงที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียง room และ Hall ไปจนถึง ambient pads ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของทาง Strymon  เอง แม้จะลดขนาดตัวเอฟเฟคลง แต่ Cloudburst ยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่ทำให้แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ นั่นคือ การประมวลผลแบบ Ensemble ที่พัฒนาขึ้นใหม่นั้นนำ shimmer reverb ที่มีมาอย่างยาวนาน ให้ขึ้นไปสู่อีกระดับ เพิ่มเสียงประสานใหม่มากมายสำหรับเอฟเฟ็กต์แบบออเคสตร้าเกือบทั้งหมด

การควบคุมประกอบด้วยสวิตช์สามทางสำหรับปริมาณเอฟเฟกต์ Ensemble เช่นเดียวกับปุ่ม Decay, Mix, Pre-Delay, Tone และ Mod รูแจ็คที่ติดตั้งด้านบนของ Cloudburst มีอินพุตและเอาต์พุต TRS สำหรับการใช้งานระบบสเตอริโอ เช่นเดียวกับแจ็ค EXP/MIDI ซึ่งสามารถตั้งค่าสำหรับ Expression Pedal, Favorite, Freeze, Infinite หรือ MIDI control นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อ USB สวิตช์โมโน/สเตอริโอ และแหล่งจ่ายไฟ 9V มาตรฐานอุตสาหกรรม

และแน่นอนว่ามีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 9,900 บาท ซึ่งทำให้ Cloudburst Ambient Reverb มีราคาย่อมเยาที่สุดในบรรดาเอฟเฟคก้อนของทาง Strymon สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของหรือลอง สามารถมาลองได้ที่ iGuitar Music หรือจะสั่งเข้ามาทางออนไลน์ก็ได้เช่นกัน ขอบคุณที่อ่านกันจนจบ… ขอบคุณครับ

Strymon Cloudburst | Ambient Reverb | Reverb Pedal

SAITO GUITARS กีตาร์ไฟฟ้าที่เรียบง่ายและสวยงาม

SAITO GUITARS กีตาร์ไฟฟ้าที่เรียบง่ายและสวยงาม SAITO GUITARS เป็นกีตาร์ไฟฟ้า ที่ผลิตที่ประเทศ ญี่ปุ่น ทั้งตัว ซึ่งทาง SAITO GUITARS ได้สร้างกีตาร์ขึ้นมาโดยใช้หลักที่ว่า “เรียบง่ายและสวยงาม”  และทาง SAITO GUITARS ก็หวังว่า มันจะกลายเป็น “เครื่องมือ” ที่ดึงเอาศักยภาพของนักดนตรีออกมาอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะอยู่ในดนตรีประเภทใดก็ตาม เรามาฟังประวัติของ SAITO GUITARS กันคราวๆดีกว่าครับ เริ่มเลยแล้วกัน SAITO GUITARS นั้น ได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 1991 โดยนาย Masaaki Saito ช่างซ่อมกีตาร์ไฟฟ้า ได้ก่อตั้งร้านซ่อมกีตาร์ขึ้นใน adachi-ku Tokyo แล้วต่อมาอีก 13 ปี ในช่วงปี 2004 เขา Masaaki Saito และพนักงานในร้านอีก 3 คน ได้เปิดร้านซ่อมกีตาร์อีกแห่งใน Kamiuma Setagaya-ku จนกระทั่งในปี 2008 ทาง Masaaki Saito ได้ย้ายร้านอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาได้ย้ายไปที่ Shimotakaido ใน Suginami-ku ผ่านไป 3 ปีทาง Masaaki Saito ได้รวบรวมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จึงได้เริ่มทำการผลิตปิ๊กอัพขายเป็นของตัวเอง โดยใช้ชื่อ “SAYTONE Handwiring Pickups”ได้เริ่มทำในปี 2011 และยังคงใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน และในปี 2012 เขาได้เปลี่ยนร้านซ่อมกีตาร์ ให้กลายเป็นบริษัท โดยใช้ชื่อว่า Saito Gakkikoubou Inc. แล้วได้ย้ายร้านอีกครั้งไปที่ Kawaguchi city ใน Saitama แล้วในปี 2014 ทาง Masaaki Saito ได้เปลี่ยนกิจการจากการรับซ่อมกีตาร์ มาเป็นอุตสาหกรรมการผลิตอย่างเต็มตัว โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า “SAITO GUITARS” และได้เปิดตัวกีตาร์รุ่นแรกทีชื่อรุ่นว่า M-Series ซึ่งเป็นกีตาร์โปร่ง ไม่ใช้กีตาร์ไฟฟ้าที่เหมือนในปัจจุบัน

กีตาร์โปร่ง Saito M-Series

จนในปี 2015 ทาง SAITO GUITARS ได้เปิดตัวกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นแรกชื่อรุ่นว่า S-Series โดยกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ เริ่มการผลิตโดยใช้เครื่อง CAD และ NC โดยใช้โปรแกรม machining และเปิดตัวกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ มากขึ้นรวมถึง S-622 และเริ่มรับ Select Order เป็นช่วงแรกๆอีกด้วย ทาง SAITO GUITARS ได้เริ่มจำหน่ายกีตาร์หัวตัดรุ่นแรก ในปี 2017 ในรุ่น S-Series “S-HL7” พร้อมยูนิต Headless ดั้งเดิมที่ทาง Saito ออกแบบเอง โดยให้ทาง Gotoh ผลิตให้ ในปี 2018 ทาง Saito ได้มียอดจัดส่งสะสมสำหรับ S-Series เกิน 1,000 คัน และในปี 2019 SAITO GUITARS ได้เริ่มผลิตเบสขึ้นโดยใช้ชื่อรุ่น S-420b และ S-521b เป็นรุ่นพื้นฐานรุ่นแรก เริ่มจำหน่าย Portrait Line เปิดตัวเครื่อง CNC รุ่นล่าสุด SHODA NCN 8200 เปิดตัว S-420b และ S-521b เป็นเบสรุ่นแรกและ Portrait Line โรงงานของเราได้รับการติดตั้ง SHODA CNC machine tool และล่าสุดในปี 2022 นี้เอง SAITO GUITARS ได้ผลิตกีตาร์ไฟฟ้าในราคาย่อมเยาว์ โดยใช้ชื่อว่า SR-Series โดยทำการผลิตปิ๊กอัพ รุ่น “SAYTONE ROBO Winding” ผลิตโดยการใช้เครื่องจักรในการผลิต ทำให้มีราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ง่ายขึ้น และทั้งหมดนี้ก็ประวัติของทาง SAITO GUITARS ที่ทาง iGuitar ได้รวบรวมที่ไปที่มา มาให้เพื่อนๆ ทราบ ว่าการทำกีตาร์ไฟฟ้าของเขาหรือคอนเซปในการผลิตต่างๆ นั้นมีเรื่องราวเป็นยังไง
SAITO S-622 SSH Matching Head [Dot Inlay] – Atlantis
SAITO S-521b – Ash Naked
SAITO S-622CS STANDARD SSH [ EXTRAORDINARY WENGE NECK ] – Mustard
SAITO SR-22 SSH – Greige

「𝐘 𝐒𝐢𝐠. 𝐑𝐨𝐜𝐤&𝐏𝐥𝐚𝐲 𝐒𝐞𝐫𝐢𝐞𝐬」

วางจำหน่ายแล้ววันนี้! 🔥

#YSIG#NewSeries#RockandPlaySeries

.

「𝐘 𝐒𝐢𝐠. 𝐑𝐨𝐜𝐤&𝐏𝐥𝐚𝐲 𝐒𝐞𝐫𝐢𝐞𝐬」

สาวกห้ามพลาดกับกีตาร์ Superstrat ซีรี่ย์ใหม่จาก Y Sig. ที่ถูกออกแบบโดยพี่ยอด Bodyslam มือกีตาร์ขวัญใจวัยรุ่นหลายๆคน มาในราคาพิเศษ 25,900 บาท เหลือไม่เยอะแล้วครับ!!

.

【𝐘 𝐒𝐢𝐠. 𝐑𝐨𝐜𝐤&𝐏𝐥𝐚𝐲 𝐒𝐞𝐫𝐢𝐞𝐬 25,900 บาท】

↓รายละเอียดสินค้าบนเว็บไซต์ คลิก!!↓

https://bit.ly/3LJOuHl

▼ ติดต่อร้านไอกีตาร์ ▼

◆ Website /www.iguitarmusic.co.th

◆ Messenger /https://m.me/iguitarthailand

◆ Tel/090-646-5551 (เปิดทุกวัน: 10:00~20:00)

◆ Tel/02-641-1882

★ Line ID/@iGuitar

◆ Store/Fortune Town พระรามเก้า ชั้น 3

◆ Video/https://youtube.com/c/iGuitarMusic

.

#YSIG#NewSeries#RockandPlaySeries#iGuitar#iGuitarMusic

10 เหตุผล ที่มือกีตาร์หลายๆคนชอบ SAITO

1. สำหรับนักเล่นตัวจริงจะรู้ว่า Radius คอแบบ 10”-12” Compound Radius ในกีตาร์ราคา 6-7 หมื่นบาท หาไม่ง่าย บางทีเราอาจจะเจอคอโค้งไปหรือแบนไปแบบ 9.5”-14” หรือ 12”-16” และบางทีงานเหล่านี้ก็ยังไม่ใช่งานฝีมือเกรด Custom หรือถ้าจะเอาเกรดนี้บางแบรนด์ก็ทะลุเกือบแสนเลยทีเดียว SAITO จึงเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับกีตาร์เกรด Custom ราคาไม่เกิน 7 หมื่น 2. คอไม่อ้วนไปและไม่บางไป จับสนุกกำลังพอดี นักเล่นที่ซีเรียสเรื่องการคอนโทรลวิธีเล่น องศาการจับ และความสบายในการยืนและนั่งเล่นทุกท่าทางจะเข้าใจดีว่า คอแบบนี้ “เล่นง่าย” “คุมง่าย” ไม่ว่าจะเล่นเฟรตแรกหรือจะดันสายหนักๆเฟรตลึกๆ ก็ตอบสนองต่อทักษะการเล่นได้ดังใจ ยอดเยี่ยมมากๆ 3. เฟรตคุณภาพของ SAITO เป็น Jescar FW-51100 Nickel Silver บวกกับความใส่ใจในการทำ ไม่ว่าจะเป็นการเลเวลและงานเก็บขอบเฟรต ทำออกมาพิถีพิถันมากแบบงานญี่ปุ่นแท้ๆ 4. งานตกแต่งของ Headstock สวยงาม เรียบง่ายแต่หรูหรา ส่วนเว้าส่วนโค้งถูกออกแบบมาอย่างดี ไม่เหมือนใคร และให้ความสำคัญกับความสวยงามเป็นอย่างมาก รวมไปถึงงานออกแบบ Neckplate ที่เรียบไปกับตัวบอดี้ ซึ่งเป็นการออกแบบที่ใส่ใจผู้เล่นเป็นอย่างยิ่ง 5. สายเพี้ยนยากสุดๆ SAITO มีเคล็ดลับการออกแบบที่ละเอียดมาก การวางองศาของสายทั้ง 6 เส้น รวมไปถึงลูกบิด Locking ทำให้กีตาร์ SAITO เพี้ยนยาก นักเล่นที่เล่นหนักและเจออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยจะทราบดีว่า การตั้งสายบ่อยๆส่งผลกระทบต่องานและการเล่นมากเพียงใด 6. Pickup ของ SAITO เป็นแบบ “พันด้วยมือ” ทำให้เสียงมีคุณภาพสูง อุ่น หนา ชัดทุกเม็ด ให้รายละเอียดที่ดี ถูกใจมือกีตาร์สาย Modern อย่างมาก 7. ตัวบอดี้กีตาร์ SAITO ใช้ไม้เกรดคุณภาพเพียง 2 ชิ้นเท่านั้น รุ่น Alder น้ำหนักเพียงแค่ 3.2-3.3kg ในแต่ละตัวและทำได้เท่ากันหมดทุกตัว พวกเขาใส่ใจมากในการควบคุมน้ำหนักให้เบา (สั่งมา 10 ตัวก็น้ำหนักเท่ากัน) รุ่น Light Weight Ash จะเบายิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเบสนั้นมีน้ำหนักที่เบาสุดๆ เหมาะสำหรับมือเบสที่เน้นต้องสะพายเล่นเป็นเวลานานๆ 8. มาพร้อมลูกบิดและหย่อง Gotoh ผลิตในญี่ปุ่นและ Part อื่นๆเกรดคุณภาพทุกชิ้น ใช้เกรดเดียวกับกีตาร์เมกาหลักแสนบาท 9. เลือกได้เยอะ คุณสามารถเลือกสีของอะไหล่ได้เองไม่ว่าจะเป็นสีดำ สีทอง หรือสีเงิน สามารถเลือกสี Part ต่างๆเช่น Pickguard , ฝาครอบ Pickup ฝาโวลุ่ม,โทน ได้หลายสี และไม่จำเป็นต้องเป็น Set เดียวกัน เราสามารถสร้างกีตาร์ส่วนประกอบต่างๆได้ตามใจ เพราะนี่คืองานเกรด Custom 10. Handmade in Japan การันตีได้ว่า คุณจะได้งานฝีมือระดับเนี๊ยบที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในราคาที่คุณเอื้อมถึงได้ง่ายๆ
Line
Messenger
Phone
Messenger
Line
Phone